FIC101| HYUNBIN X MINHYUN| MEOW XX
by @foreversweet007
▪ ▪ ▪ ครืด ▪ ▪ ▪
“โหล”
“ไอ้บิน ! วันนี้มึงไม่มาสอบไง๊ !!?”
“ . . .”
“อย่าบอกนะว่ามึงพึ่งตื่น”
“อ่า . ."
“ไอ้สัส นี่มันไฟนอลนะเพื่อน มึงอยากเรียนซ้ำชั้นหรอ”
“ก็ไม่ได้อยาก”
“แล้วทำไมมึงไม่มาสอบ !”
“เอาหน่า เดี๋ยวกูไปสอบทีหลัง”
“นี่มึงไม่เครียดเลยหรอ ไอ้ห่า”
“แล้วมึงเป็นเมียกูหรอ มาเครียดแทนกูจัง”
“ยังจะเล่นนะมึง เดี๋ยวกูถีบ เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง ทำไมมึงเป็นแบบนี้”
“แบบนี้ ? กูเป็นแบบไหนวะ”
“โอ้ย ไอ้เหี้ย กูไม่พูดด้วยละ เดี๋ยวกูไปบอกออาจารย์ว่ามึงป่วย แล้วจะถามว่ามึงต้องทำยังไงบ้าง”
“ขอบใจ”
“อย่าลืมหาใบรับรองแพทย์มาด้วยนะมึง รีบไปคลีนิคซักที่ วันนี้ด้วย!”
“เค”
-ตี๊ด
ปิดเทอมฤดูร้อน
ณ โรงเรียนมัธยมปลาย XX
“ควอน ฮยอนบิน !” เสียงตวาดของคุณครูสาวดังลั่นห้องพักอาจารย์ เบื้องหน้าของหล่อนตอนนี้มีนักเรียนชายสองคน คนหนึ่งคือคิมฮยอนอู นักบาสสุดฮอตที่ทำหน้าที่เสมือนเลขาที่ต้องคอยตามล้างตามเช็ดพฤติกรรมของนักเรียน อีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ
. . . ควอน ฮยอนบิน ดีกรีอดีตนักกีฬาฟันดาบ ที่เคยมีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่เมื่อสามสี่เดือนมานี้เอง ที่เขาชอบทำตัวมีปัญหาจนทำให้อาจารย์ต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ
“ครับ ?” ฮยอนบินเอ่ยด้วยสีหน้าที่เหม่อลอยและมึนงง ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่อาจารย์พูดสักเท่าไหร่
“ทำไมไม่ตอบ ที่ครูถามไม่ได้ยินรึยังไง”
“ครู พูดว่าอะไรนะครับ” ควอน ฮยอนบิน นักเรียนเกรด 11 ที่กำลังจะขึ้นเกรด 12 เขามาโรงเรียนนับครั้งได้ มีนิสัยชอบเก็บตัว เรียนเสร็จก็กลับบ้านเลย พฤติกรรมแบบนี้เขาเพิ่งเป็น เมื่อก่อนเขาก็เป็นหนุ่มฮอตปกติที่ใช้ชีวิตฮอตๆคูลๆ กับกลุ่มฟลาวเวอร์บอยที่เวลาเดินไปไหนมาไหนก็ต้องมีแต่คนกรี๊ดและคลั่งไคล้ การเรียนของเขาก็ดีมาตลอด มีความรับผิดชอบไม่ว่าจะเรื่องกิจกรรมหรือเรื่องเรียน การที่เขาเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือแบบนี้ทำให้คนรอบข้างอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามและได้ถาม เพราะแค่จะหาตัวของเขายังยากเลย
“ครูเขาถามมึงว่า มึงจะสอบตอนนี้เลยมั้ยหรือจะสอบวันอื่น” ฮยอนอู เพื่อนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขาสะกิดบอก
“ฮยอนบินครูควรจะทำยังไงกับนายดี” ครูพูดอย่างหน่ายๆ ก่อนที่จะเซ็นต์รับรองเอกสารอนุญาตสอบย้อนหลัง
“นี่นายกำลังจะขึ้น ม.6 แล้วนะ เดี๋ยวก็ต้องสอบเข้ามหาลัย ต้องเตรียมตัวได้แล้วนะ”
“ครับ” เจ้าตัวพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะเสมองออกไปยังหน้าต่าง อาการของเขาคล้ายกับอยู่ในภาวะซึมเศร้า เขาเหม่อออกไปเหมือนตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับคนอื่น เหมือนเขาต้องการออกไปจากตรงนี้
“ฮยอนบิน เอาตรงๆนะ ทำไมไม่มาสอบ” อยู่ๆเมื่อเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว อาจารย์สาวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครูครับคือ แบบว่า-.”
“ฮยอนอูนายหยุดแก้ตัวให้เพื่อนได้แล้ว ครูรู้นะว่าไม่ได้ป่วยจริง” ฮยอนอูต้องหยุดพูดทันทีเมื่ออาจารย์ตัดบท เขาสะกิดเรียกฮยอนบินที่ตอนนี้ตกอยู่ในภวังให้ตอบอาจารย์ แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะตอบหรือแก้ตัวอะไร เมื่อสถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบอาจารย์จึงเริ่มเทศนา
“นายมาโรงเรียนนับครั้งได้เลยนะ ครูเข้าใจว่านายอยู่คนเดียว แล้วพ่อแม่ของนายก็ทำงานต่างประเทศทั้งคู่ ญาติพี่น้องก็ไม่มี จริงๆพฤติกรรมของนายต้องถูกรายงานให้ทางบ้านฟังนะ แต่ครูไม่อยากให้พ่อแม่นายต้องเป็นห่วง . . นี่ ฟังอยู่รึเปล่า” ฮยอนบินยังคงนั่งนิ่ง ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์แม้แต่น้อย
“ถ้าไม่มีฮยอนอูนายจะเป็นยังไงเนี่ย”
“พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ” อยู่ๆ เขาก็พูดโพล่งขึ้นมาทั้งๆที่ประโยคที่อาจารย์พูดมานั้นเป็นแค่ประโยคลอยๆ เขาเหมือนจะสาธยายความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้นให้อาจารย์ฟังอีก แต่ก็เงียบไปแล้วพูดงึมงำๆกับตัวเอง
“จารครับอย่าถือสานะครับ ช่วงนี้มันพูดไม่ค่อยรู้เรื่องสติก็ไม่ค่อยจะเต็ม คือมันจะพูดว่าพวกเราสนิทกันน่ะครับ” ฮยอนอูตอบอาจารย์พลางยิ้มแหยๆ
“ก็ไม่เท่ามินฮยอน”
“มินฮยอนเป็นทุกอย่างสำหรับผม พวกเรารักกันมาก”
“กูล่ะเพลีย . .” ฮยอนอูที่ดูเหมือนจะทนไม่ไหวกับอาการโนสติคิดถึงคนรักของฮยอนบินเอ่ยขึ้นมาลอยๆ อยากจะหาอะไรมาอุดปากเพื่อนแต่ก็ต้องปล่อยให้มันเพ้อรำพันเป็นกวีอาลัยรัก เมื่อก่อนฮยอนบิยนเพื่อนของเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เคยพูดรู้เรื่อง ตอนนี้เหมือนแทบจะใช้ชีวิตอยู่กับใครไม่ได้เลยนอกจากตัวเอง แล้วก็มีเขาเนี่ยแหละที่เข้าใจอาการของมัน
“วันนั้นมินฮยอน. .ยังไม่ได้ไปถึงมือหมอเลย” อาจารย์สาวเริ่มทำหน้างงกับสถานการณ์ ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮยอนบินกำลังจะสื่อ
“. . นี่ อย่าร้องนะ” เธอหันหน้าไปทางฮยอนอูเหมือนจะขอความช่วยเหลือเมื่อฮยอนบินเริ่มเล่าไปน้ำตาซึมไป
“ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย อยู่ๆก็จากกันไป ถ้าวันนั้นผมไม่มาโรงเรียน ไม่ปล่อยให้อยู่ห้องคนเดียว มินฮยอนก็คงไม่จากไป. .”
-มินฮยอน เป็นแมวของมันครับจาร-
ประโยคลวกๆงถูกเขียนใส่มือของฮยอนอูก่อนจะโชว์ให้อาจารย์ได้เห็นก่อนที่จะงงกับสิ่งที่ฮยอนบินพูดไปมากกว่านี้
“อ่า . . นายคงเสียใจมาก” ครูสาวพยายามปลอบใจ เมื่อสถานการณ์เริ่มแย่ลง
“เพราะงี้มันถึงไม่ยอมออกจากห้องครับครู” ฮยอนอูพูดเบาๆเหมือนกระซิบ ตอนนี้ ควอน โบอา ครูประจำชั้นของเด็กทั้งสองเริ่มเข้าใจแล้วว่าฮยอนบินเหมือนจะเสียแมวที่เลี้ยงไป แล้วเขาคงรักมันมาก แล้วก็รู้สึกผิดที่พามันไปส่งโรงพยาบาลไม่ทัน หลังจากนั้นก็เลยไม่ยอมมาโรงเรียน
“ฮยอนบิน ทิชชู่อยู่นี่”
“ขอบคุณครับ”
“ครูเข้าใจนะ เวลาเราสูญเสียอะไรที่สำคัญในชีวิตไป แต่ว่ามันผ่านไปแล้ว ถ้าเธอมัวแต่จมปรักอยู่กับอดีต คิดว่ามินฮยอนจะดีใจหร-“
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ครูควอน โบอาครับ นักเรียนที่จะย้ายมาใหม่มาขอพบครับ” ยังไม่ทันที่ครูจะพูดต่อ เลขาห้องทะเบียนก็เข้ามาแล้วพูดคุยกับหล่อน
“นักเรียนใหม่?” อาจารย์สาวทำหน้างงเหมือนเธอเพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก
“ครูใหญ่ไม่ได้บอกหรอครับ เทอมหน้าจะมีนักเรียนย้ายมาที่ห้องคุณครู”
“ . . เดี๋ยวครูมานะ ฮยอนอูฝากดูฮยอนบินด้วย อย่าให้กระโดดออกจากหน้าต่างหรือทำอะไรแปลกๆ” เธอพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะออกไปจากห้อง ทิ้งให้นักเรียนสองคนอยู่กันตามลำพัง
“ไอ้บิน มึงโอเคนะ” เพื่อนดีเด่นอย่างฮยอนอูโพล่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอาจารย์ได้ออกจากห้องไปแล้ว
“กูควรลาออกมั้ย กูไม่คิดว่ากูจะมีกำลังใจเรียนต่อ” ฮยอนบินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เห้ย ไม่เอาดิ คิดถึงพ่อแม่ไว้มึง เขาจะแฮปปี้อ่อถ้ามึงทำแบบนั้น”
“เขาจะมารู้สึกอะไรวะ เขาทิ้งกูไว้เกาหลีคนเดียว! แล้วมินฮยอนก็ไม่อยู่แล้ว กูยังมีอะไรให้แคร์อีก!” ฮยอนบินตอบด้วยอารมณ์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ดีเอามากๆในตอนนี้ เหตุผลอะไรเขาก็ไม่อยากจะใช้ทั้งนั้น ไม่เป็นเขาไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเหมือนสูญเสียทุกทิ้งทุกอย่างไป
“มึงอย่าดราม่าได้ปะ ก็แค่แมว”
ฮยอนอูพูดไป โดยไม่รู้เลยว่า . . .คำพูดนั้นของเขาเป็นชนวนจุดระเบิดชั้นดี ฮยอนบินลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงมาหาฮยอนอูที่นั่งอยู่แล้วเริ่มตะคอกเสียงดังใส่ขึ้นเรื่อยๆ
“ก็แค่แมว . .ก็แค่แมว . . ไหนมึงพูดใหม่ดิ๊ !”
ผลั่ว !!
หมัดหนักๆของ อดีตนักกีฬาฟันดาบปล่อยลงไปยังใบหน้าของเพื่อนนักบาสอย่างจัง ฮยอนอูก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนของเขาในตอนนี้ไม่มีสติ อีกอย่างถ้าเขาสวนกลับฮยอนบินคงมีสภาพที่แย่กว่าเขา เพราะเขานั้นแรงเยอะกว่าฮยอนบินมากถึงจะสูงพอๆกันก็ตามที
“เห้ย นักเรียน หยุด ! มีนักเรียนกำลังต่อยกัน!” อยู่ๆยามประจำตึกก็เข้ามาเห็นเหตุการณ์แล้วตะโกนดังลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่าอาจารย์ที่อยู่แถวนั้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งจนกระทุ่ง ครูประจำชั้นอย่างโบอาได้ยินเสียงแล้ววิ่งเข้ามาเพื่อที่จะหยุดสถานการณ์
“ฮยอนบินหยุด !!”
“ควอน ฮยอนบิน !!” ครูสาวตวาดลั่นจนฮยอนบินหยุดการกระทำอันแสนบ้าคลั่งลง เธอมองไปยังฮยอนอูที่ตอนนี้มีแต่รอยช้ำบนใบหน้า แถมที่มุมปากยังมีรอยเลือดสีแดงสดไหลออกมา ฮยอนอูยกมือเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไรให้กับหล่อนแต่หล่อนก็ต้องพาเขาเข้าห้องพยาบาลเพื่อไปรักษาแผล เธอฝากฮยอนอูให้ครูพยาบาลดูแลก่อนที่เธอจะกลับมาหาต้นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้
“ฮยอนบิน นายทำอะไร” เธอพูดด้วยน้ำเสียงติดไม่เข้าใจ
“ฮยอนอูเขามาดูถูกมินฮยอนก่อน” เขาพูดพลางก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมสบตาอาจารย์
“เฮ้อ ฮยอนบินนายต้อง . . นายต้องมีเหตุผลมากกว่านี้นะ ครูเข้าใจนาย แต่นายทำแบบนี้มันไม่ถูก ฮยอนอูไม่เป็นอะไรมากแต่นายไปต่อยเข้าแบบนั้นมันไม่ถูกนะ เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับนายมาก นายรู้ใช่มั้ย เอาไว้เดี๋ยวครูจะเรียกมาสอบใหม่ละกัน เธอกลับไปได้ แล้วก็ไปดูเพื่อนด้วยที่ห้องพยาบาล”
ฮยอนบินเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ด้วยความรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ นอกจากจะเสียแมวไปแล้ว เขาก็มาคิดว่าเขาอาจจะเสียเพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่อย่างฮยอนอูไปอีก เขาคงต้องไปขอโทษฮยอนอูก่อนที่จะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้
▪ ▪ ▪ กร๊ง กริ๊ง ▪ ▪ ▪
อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งคล้ายกระดิ่งแมว เสียงนั่นเรียกความสนใจให้ร่างสูงออกมาจากภวังค์ ทั้งยังทำให้นึกถึงเสียงปลอกคอของมินฮยอน แมวของเขาไม่มีผิด เขาเดินไปตามที่มาของเสียงก่อนที่จะเจอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาอยู่ในเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกัน ที่ข้อมือของเขามีสร้อยข้อมือที่คงจะเป็นที่มาของเสียงกรุ๊งกริ๊งที่เขาได้ยิน
หมับ !
ฮยอนบินเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มคนนั้นก่อนที่จะคว้าข้อมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดู สร้อยข้อมือของอีกฝ่ายเหมือนปลอกคอแมวของเขาไม่มีผิด เป็นเหมือนกำมะหยี่สีแดงสดที่มีเพียงกระดิ่งตกแต่งเอาไว้
“ทำอะไร” อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างงงๆ เขาเงยหน้ามองฮยอนบินอย่างหาเรื่อง เมื่อได้สติฮยอนบินก็ปล่อยข้อมืออีกฝ่ายก่อนที่จะเหลือบไปเห็นป้ายชื่อนักเรียนที่ติดอยู่บนอกด้านซ้ายของนักเรียนคนนี้
-ฮวัง มินฮยอน-
“มิน.. .ฮยอน ?” เขาทวนชื่ออีกฝ่ายพลางมองหน้า สายตาดุๆนิ่งๆของฝ่าย จมูกรั้น ตากลมโต ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆก็นึกถึงแมวที่เขาเสียไป เขานึกถึงตอนที่เขาเก็บแมวของเขามาเลี้ยงใหม่ๆ ในวันที่อากาศแบบนี้ ที่ข้างทางเขาเจอกล่องที่มีลูกแมวถูกทิ้งไว้ เป็นเหมือนลูกแมวป่าที่ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แต่ลึกๆแล้วก็ต้องการความรัก . . . ต้องการได้รับการดูแล
เหมือนมาก . . . เหมือนเกินไป
มินฮยอน หรือนายจะกลับมา
“เห้ย นายจะทำอะไร” นักเรียนคนนั้นร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ คนแปลกหน้าที่พึ่งเจอคว้าข้อมือเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับลากให้เดินตามไป เขาไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากๆ อีกฝ่ายยังคงลากให้เขาเดินตามไป ทั้งๆที่เขาพยายามยื้อไว้เเล้วแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ ดูก็รู้ว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่อยากจะหาว่าเป็นพวกบ้าหรือโรคจิต เขาอาจจะแค่เข้าใจผิดว่าเป็นคนที่รู้จักกัน ชื่อเหมือนกัน อะไรทำนองนี้ แต่ก็คงไม่ใช่ ในเมื่ออีกฝ่ายจ้องหน้าเขาซะขนาดนั้น เขาคงไม่ได้โชคร้ายไปหน้าตาเหมือนใครเข้าหรอกนะ
“นี่ นาย ! ปล่อยก่อน” นักเรียนเจ้าของสร้อยข้อมือพยายามพูดเรียกอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังคงพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดพ้นจากการกอบกุม
“กลับบ้านเรากัน” ร่างสูงหันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม ถึงมันจะดูบ้าก็ตามทีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร่างสูงที่เดินอยู่เบื้องหน้าของเขาช่างดูดี เหมือนเป็นนักเรียนเด่นๆที่ทุกคนพร้อมให้ความสนใจ
“พูดอะไรของนายเนี่ย” แต่คนเรามันคงดูกันที่เปลือกนอกไม่ได้ ถึงจะดูดีแค่ไหนแต่การกระทำของเขามันบ้าบอชัดๆ คนปกติที่ไหนเขาจะมาทำอะไรแบบนี้ นี่มาลากให้เดินตามตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ชื่อก็ยังไม่รู้ เพราะไม่ได้สนใจมองป้ายชื่ออีกฝ่ายเลย พูดถึงเรื่องชื่อ อยู่ๆอีกฝ่ายก็เรียกชื่อเราหลังจากมองป้ายชื่อ หรือว่าจะเข้าใจผิดจริงๆ แต่มันก็ไไม่สมเหตุสมผลอยู่ดีสำหรับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“มินฮยอน นายอยากกินอะไรเป็นมื้อเย็นหรอ”
“หรืออยากแวะซื้อของเล่นก่อนกลับบ้าน”
ร่างสูงยังคงพูดประโยคแปลกประหลาดซ้ำไปมา เหมือนจะถามแต่เมื่อไม่ตอบอีกฝ่ายก็ยังพูดไม่หยุด เขาพูดซ้ำไปมาแล้วยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า เหมือนจะเดินมาไกลแต่ก็ยังไม่พ้นรั้วโรงเรียนอยู่ดี มันอาจจะเป็นเพราะช่วงปิดเทอมคนในเขตโรงเรียนถึงไม่มีเลย อยากจะขอให้ใครช่วยเหลือ แต่มันก็ดูแปลกๆมั้ยเป็นนักเรียนทั้งคู่ แถมอีกฝ่ายมองภายนอกก็ยังเหมือนนักเรียนหน้าตาดีธรรมดาๆคนนึงอีก
“วันนี้อยากให้ฉันอาบน้ำให้มั้ย”
“ไอ้โรคจิต ! ปล่อย”
ให้ตายเถอะ ฮวางมินฮยอน ยังไม่ทันเรียนก็เกิดเรื่องซะแล้ว
- To be continue -
อยากให้อัพต่อก็เมนชั่นมาวิจารณ์ฟิคได้เลยนะ เราอยากได้รับความเห็นทุกคน หรือไปทวีตในแท็ก #มฮบMEOWXX ก็ได้
by @foreversweet007
MEOW XX
EP 1
▪ ▪ ▪ ครืด ▪ ▪ ▪
“โหล”
“ไอ้บิน ! วันนี้มึงไม่มาสอบไง๊ !!?”
“ . . .”
“อย่าบอกนะว่ามึงพึ่งตื่น”
“อ่า . ."
“ไอ้สัส นี่มันไฟนอลนะเพื่อน มึงอยากเรียนซ้ำชั้นหรอ”
“ก็ไม่ได้อยาก”
“แล้วทำไมมึงไม่มาสอบ !”
“เอาหน่า เดี๋ยวกูไปสอบทีหลัง”
“นี่มึงไม่เครียดเลยหรอ ไอ้ห่า”
“แล้วมึงเป็นเมียกูหรอ มาเครียดแทนกูจัง”
“ยังจะเล่นนะมึง เดี๋ยวกูถีบ เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง ทำไมมึงเป็นแบบนี้”
“แบบนี้ ? กูเป็นแบบไหนวะ”
“โอ้ย ไอ้เหี้ย กูไม่พูดด้วยละ เดี๋ยวกูไปบอกออาจารย์ว่ามึงป่วย แล้วจะถามว่ามึงต้องทำยังไงบ้าง”
“ขอบใจ”
“อย่าลืมหาใบรับรองแพทย์มาด้วยนะมึง รีบไปคลีนิคซักที่ วันนี้ด้วย!”
“เค”
-ตี๊ด
ปิดเทอมฤดูร้อน
ณ โรงเรียนมัธยมปลาย XX
“ควอน ฮยอนบิน !” เสียงตวาดของคุณครูสาวดังลั่นห้องพักอาจารย์ เบื้องหน้าของหล่อนตอนนี้มีนักเรียนชายสองคน คนหนึ่งคือคิมฮยอนอู นักบาสสุดฮอตที่ทำหน้าที่เสมือนเลขาที่ต้องคอยตามล้างตามเช็ดพฤติกรรมของนักเรียน อีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ
. . . ควอน ฮยอนบิน ดีกรีอดีตนักกีฬาฟันดาบ ที่เคยมีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่เมื่อสามสี่เดือนมานี้เอง ที่เขาชอบทำตัวมีปัญหาจนทำให้อาจารย์ต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ
“ครับ ?” ฮยอนบินเอ่ยด้วยสีหน้าที่เหม่อลอยและมึนงง ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่อาจารย์พูดสักเท่าไหร่
“ทำไมไม่ตอบ ที่ครูถามไม่ได้ยินรึยังไง”
“ครู พูดว่าอะไรนะครับ” ควอน ฮยอนบิน นักเรียนเกรด 11 ที่กำลังจะขึ้นเกรด 12 เขามาโรงเรียนนับครั้งได้ มีนิสัยชอบเก็บตัว เรียนเสร็จก็กลับบ้านเลย พฤติกรรมแบบนี้เขาเพิ่งเป็น เมื่อก่อนเขาก็เป็นหนุ่มฮอตปกติที่ใช้ชีวิตฮอตๆคูลๆ กับกลุ่มฟลาวเวอร์บอยที่เวลาเดินไปไหนมาไหนก็ต้องมีแต่คนกรี๊ดและคลั่งไคล้ การเรียนของเขาก็ดีมาตลอด มีความรับผิดชอบไม่ว่าจะเรื่องกิจกรรมหรือเรื่องเรียน การที่เขาเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือแบบนี้ทำให้คนรอบข้างอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามและได้ถาม เพราะแค่จะหาตัวของเขายังยากเลย
“ครูเขาถามมึงว่า มึงจะสอบตอนนี้เลยมั้ยหรือจะสอบวันอื่น” ฮยอนอู เพื่อนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขาสะกิดบอก
“ฮยอนบินครูควรจะทำยังไงกับนายดี” ครูพูดอย่างหน่ายๆ ก่อนที่จะเซ็นต์รับรองเอกสารอนุญาตสอบย้อนหลัง
“นี่นายกำลังจะขึ้น ม.6 แล้วนะ เดี๋ยวก็ต้องสอบเข้ามหาลัย ต้องเตรียมตัวได้แล้วนะ”
“ครับ” เจ้าตัวพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะเสมองออกไปยังหน้าต่าง อาการของเขาคล้ายกับอยู่ในภาวะซึมเศร้า เขาเหม่อออกไปเหมือนตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับคนอื่น เหมือนเขาต้องการออกไปจากตรงนี้
“ฮยอนบิน เอาตรงๆนะ ทำไมไม่มาสอบ” อยู่ๆเมื่อเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว อาจารย์สาวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครูครับคือ แบบว่า-.”
“ฮยอนอูนายหยุดแก้ตัวให้เพื่อนได้แล้ว ครูรู้นะว่าไม่ได้ป่วยจริง” ฮยอนอูต้องหยุดพูดทันทีเมื่ออาจารย์ตัดบท เขาสะกิดเรียกฮยอนบินที่ตอนนี้ตกอยู่ในภวังให้ตอบอาจารย์ แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะตอบหรือแก้ตัวอะไร เมื่อสถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบอาจารย์จึงเริ่มเทศนา
“นายมาโรงเรียนนับครั้งได้เลยนะ ครูเข้าใจว่านายอยู่คนเดียว แล้วพ่อแม่ของนายก็ทำงานต่างประเทศทั้งคู่ ญาติพี่น้องก็ไม่มี จริงๆพฤติกรรมของนายต้องถูกรายงานให้ทางบ้านฟังนะ แต่ครูไม่อยากให้พ่อแม่นายต้องเป็นห่วง . . นี่ ฟังอยู่รึเปล่า” ฮยอนบินยังคงนั่งนิ่ง ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์แม้แต่น้อย
“ถ้าไม่มีฮยอนอูนายจะเป็นยังไงเนี่ย”
“พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ” อยู่ๆ เขาก็พูดโพล่งขึ้นมาทั้งๆที่ประโยคที่อาจารย์พูดมานั้นเป็นแค่ประโยคลอยๆ เขาเหมือนจะสาธยายความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้นให้อาจารย์ฟังอีก แต่ก็เงียบไปแล้วพูดงึมงำๆกับตัวเอง
“จารครับอย่าถือสานะครับ ช่วงนี้มันพูดไม่ค่อยรู้เรื่องสติก็ไม่ค่อยจะเต็ม คือมันจะพูดว่าพวกเราสนิทกันน่ะครับ” ฮยอนอูตอบอาจารย์พลางยิ้มแหยๆ
“ก็ไม่เท่ามินฮยอน”
“มินฮยอนเป็นทุกอย่างสำหรับผม พวกเรารักกันมาก”
“กูล่ะเพลีย . .” ฮยอนอูที่ดูเหมือนจะทนไม่ไหวกับอาการโนสติคิดถึงคนรักของฮยอนบินเอ่ยขึ้นมาลอยๆ อยากจะหาอะไรมาอุดปากเพื่อนแต่ก็ต้องปล่อยให้มันเพ้อรำพันเป็นกวีอาลัยรัก เมื่อก่อนฮยอนบิยนเพื่อนของเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เคยพูดรู้เรื่อง ตอนนี้เหมือนแทบจะใช้ชีวิตอยู่กับใครไม่ได้เลยนอกจากตัวเอง แล้วก็มีเขาเนี่ยแหละที่เข้าใจอาการของมัน
“วันนั้นมินฮยอน. .ยังไม่ได้ไปถึงมือหมอเลย” อาจารย์สาวเริ่มทำหน้างงกับสถานการณ์ ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮยอนบินกำลังจะสื่อ
“. . นี่ อย่าร้องนะ” เธอหันหน้าไปทางฮยอนอูเหมือนจะขอความช่วยเหลือเมื่อฮยอนบินเริ่มเล่าไปน้ำตาซึมไป
“ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย อยู่ๆก็จากกันไป ถ้าวันนั้นผมไม่มาโรงเรียน ไม่ปล่อยให้อยู่ห้องคนเดียว มินฮยอนก็คงไม่จากไป. .”
-มินฮยอน เป็นแมวของมันครับจาร-
ประโยคลวกๆงถูกเขียนใส่มือของฮยอนอูก่อนจะโชว์ให้อาจารย์ได้เห็นก่อนที่จะงงกับสิ่งที่ฮยอนบินพูดไปมากกว่านี้
“อ่า . . นายคงเสียใจมาก” ครูสาวพยายามปลอบใจ เมื่อสถานการณ์เริ่มแย่ลง
“เพราะงี้มันถึงไม่ยอมออกจากห้องครับครู” ฮยอนอูพูดเบาๆเหมือนกระซิบ ตอนนี้ ควอน โบอา ครูประจำชั้นของเด็กทั้งสองเริ่มเข้าใจแล้วว่าฮยอนบินเหมือนจะเสียแมวที่เลี้ยงไป แล้วเขาคงรักมันมาก แล้วก็รู้สึกผิดที่พามันไปส่งโรงพยาบาลไม่ทัน หลังจากนั้นก็เลยไม่ยอมมาโรงเรียน
“ฮยอนบิน ทิชชู่อยู่นี่”
“ขอบคุณครับ”
“ครูเข้าใจนะ เวลาเราสูญเสียอะไรที่สำคัญในชีวิตไป แต่ว่ามันผ่านไปแล้ว ถ้าเธอมัวแต่จมปรักอยู่กับอดีต คิดว่ามินฮยอนจะดีใจหร-“
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ครูควอน โบอาครับ นักเรียนที่จะย้ายมาใหม่มาขอพบครับ” ยังไม่ทันที่ครูจะพูดต่อ เลขาห้องทะเบียนก็เข้ามาแล้วพูดคุยกับหล่อน
“นักเรียนใหม่?” อาจารย์สาวทำหน้างงเหมือนเธอเพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก
“ครูใหญ่ไม่ได้บอกหรอครับ เทอมหน้าจะมีนักเรียนย้ายมาที่ห้องคุณครู”
“ . . เดี๋ยวครูมานะ ฮยอนอูฝากดูฮยอนบินด้วย อย่าให้กระโดดออกจากหน้าต่างหรือทำอะไรแปลกๆ” เธอพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะออกไปจากห้อง ทิ้งให้นักเรียนสองคนอยู่กันตามลำพัง
“ไอ้บิน มึงโอเคนะ” เพื่อนดีเด่นอย่างฮยอนอูโพล่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอาจารย์ได้ออกจากห้องไปแล้ว
“กูควรลาออกมั้ย กูไม่คิดว่ากูจะมีกำลังใจเรียนต่อ” ฮยอนบินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เห้ย ไม่เอาดิ คิดถึงพ่อแม่ไว้มึง เขาจะแฮปปี้อ่อถ้ามึงทำแบบนั้น”
“เขาจะมารู้สึกอะไรวะ เขาทิ้งกูไว้เกาหลีคนเดียว! แล้วมินฮยอนก็ไม่อยู่แล้ว กูยังมีอะไรให้แคร์อีก!” ฮยอนบินตอบด้วยอารมณ์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ดีเอามากๆในตอนนี้ เหตุผลอะไรเขาก็ไม่อยากจะใช้ทั้งนั้น ไม่เป็นเขาไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเหมือนสูญเสียทุกทิ้งทุกอย่างไป
“มึงอย่าดราม่าได้ปะ ก็แค่แมว”
ฮยอนอูพูดไป โดยไม่รู้เลยว่า . . .คำพูดนั้นของเขาเป็นชนวนจุดระเบิดชั้นดี ฮยอนบินลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงมาหาฮยอนอูที่นั่งอยู่แล้วเริ่มตะคอกเสียงดังใส่ขึ้นเรื่อยๆ
“ก็แค่แมว . .ก็แค่แมว . . ไหนมึงพูดใหม่ดิ๊ !”
ผลั่ว !!
หมัดหนักๆของ อดีตนักกีฬาฟันดาบปล่อยลงไปยังใบหน้าของเพื่อนนักบาสอย่างจัง ฮยอนอูก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนของเขาในตอนนี้ไม่มีสติ อีกอย่างถ้าเขาสวนกลับฮยอนบินคงมีสภาพที่แย่กว่าเขา เพราะเขานั้นแรงเยอะกว่าฮยอนบินมากถึงจะสูงพอๆกันก็ตามที
“เห้ย นักเรียน หยุด ! มีนักเรียนกำลังต่อยกัน!” อยู่ๆยามประจำตึกก็เข้ามาเห็นเหตุการณ์แล้วตะโกนดังลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่าอาจารย์ที่อยู่แถวนั้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งจนกระทุ่ง ครูประจำชั้นอย่างโบอาได้ยินเสียงแล้ววิ่งเข้ามาเพื่อที่จะหยุดสถานการณ์
“ฮยอนบินหยุด !!”
“ควอน ฮยอนบิน !!” ครูสาวตวาดลั่นจนฮยอนบินหยุดการกระทำอันแสนบ้าคลั่งลง เธอมองไปยังฮยอนอูที่ตอนนี้มีแต่รอยช้ำบนใบหน้า แถมที่มุมปากยังมีรอยเลือดสีแดงสดไหลออกมา ฮยอนอูยกมือเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไรให้กับหล่อนแต่หล่อนก็ต้องพาเขาเข้าห้องพยาบาลเพื่อไปรักษาแผล เธอฝากฮยอนอูให้ครูพยาบาลดูแลก่อนที่เธอจะกลับมาหาต้นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้
“ฮยอนบิน นายทำอะไร” เธอพูดด้วยน้ำเสียงติดไม่เข้าใจ
“ฮยอนอูเขามาดูถูกมินฮยอนก่อน” เขาพูดพลางก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมสบตาอาจารย์
“เฮ้อ ฮยอนบินนายต้อง . . นายต้องมีเหตุผลมากกว่านี้นะ ครูเข้าใจนาย แต่นายทำแบบนี้มันไม่ถูก ฮยอนอูไม่เป็นอะไรมากแต่นายไปต่อยเข้าแบบนั้นมันไม่ถูกนะ เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับนายมาก นายรู้ใช่มั้ย เอาไว้เดี๋ยวครูจะเรียกมาสอบใหม่ละกัน เธอกลับไปได้ แล้วก็ไปดูเพื่อนด้วยที่ห้องพยาบาล”
ฮยอนบินเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ด้วยความรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ นอกจากจะเสียแมวไปแล้ว เขาก็มาคิดว่าเขาอาจจะเสียเพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่อย่างฮยอนอูไปอีก เขาคงต้องไปขอโทษฮยอนอูก่อนที่จะรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้
▪ ▪ ▪ กร๊ง กริ๊ง ▪ ▪ ▪
อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งคล้ายกระดิ่งแมว เสียงนั่นเรียกความสนใจให้ร่างสูงออกมาจากภวังค์ ทั้งยังทำให้นึกถึงเสียงปลอกคอของมินฮยอน แมวของเขาไม่มีผิด เขาเดินไปตามที่มาของเสียงก่อนที่จะเจอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาอยู่ในเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกัน ที่ข้อมือของเขามีสร้อยข้อมือที่คงจะเป็นที่มาของเสียงกรุ๊งกริ๊งที่เขาได้ยิน
หมับ !
ฮยอนบินเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มคนนั้นก่อนที่จะคว้าข้อมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดู สร้อยข้อมือของอีกฝ่ายเหมือนปลอกคอแมวของเขาไม่มีผิด เป็นเหมือนกำมะหยี่สีแดงสดที่มีเพียงกระดิ่งตกแต่งเอาไว้
“ทำอะไร” อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างงงๆ เขาเงยหน้ามองฮยอนบินอย่างหาเรื่อง เมื่อได้สติฮยอนบินก็ปล่อยข้อมืออีกฝ่ายก่อนที่จะเหลือบไปเห็นป้ายชื่อนักเรียนที่ติดอยู่บนอกด้านซ้ายของนักเรียนคนนี้
-ฮวัง มินฮยอน-
“มิน.. .ฮยอน ?” เขาทวนชื่ออีกฝ่ายพลางมองหน้า สายตาดุๆนิ่งๆของฝ่าย จมูกรั้น ตากลมโต ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆก็นึกถึงแมวที่เขาเสียไป เขานึกถึงตอนที่เขาเก็บแมวของเขามาเลี้ยงใหม่ๆ ในวันที่อากาศแบบนี้ ที่ข้างทางเขาเจอกล่องที่มีลูกแมวถูกทิ้งไว้ เป็นเหมือนลูกแมวป่าที่ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แต่ลึกๆแล้วก็ต้องการความรัก . . . ต้องการได้รับการดูแล
เหมือนมาก . . . เหมือนเกินไป
มินฮยอน หรือนายจะกลับมา
“เห้ย นายจะทำอะไร” นักเรียนคนนั้นร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ คนแปลกหน้าที่พึ่งเจอคว้าข้อมือเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับลากให้เดินตามไป เขาไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากๆ อีกฝ่ายยังคงลากให้เขาเดินตามไป ทั้งๆที่เขาพยายามยื้อไว้เเล้วแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ ดูก็รู้ว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่อยากจะหาว่าเป็นพวกบ้าหรือโรคจิต เขาอาจจะแค่เข้าใจผิดว่าเป็นคนที่รู้จักกัน ชื่อเหมือนกัน อะไรทำนองนี้ แต่ก็คงไม่ใช่ ในเมื่ออีกฝ่ายจ้องหน้าเขาซะขนาดนั้น เขาคงไม่ได้โชคร้ายไปหน้าตาเหมือนใครเข้าหรอกนะ
“นี่ นาย ! ปล่อยก่อน” นักเรียนเจ้าของสร้อยข้อมือพยายามพูดเรียกอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังคงพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดพ้นจากการกอบกุม
“กลับบ้านเรากัน” ร่างสูงหันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม ถึงมันจะดูบ้าก็ตามทีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร่างสูงที่เดินอยู่เบื้องหน้าของเขาช่างดูดี เหมือนเป็นนักเรียนเด่นๆที่ทุกคนพร้อมให้ความสนใจ
“พูดอะไรของนายเนี่ย” แต่คนเรามันคงดูกันที่เปลือกนอกไม่ได้ ถึงจะดูดีแค่ไหนแต่การกระทำของเขามันบ้าบอชัดๆ คนปกติที่ไหนเขาจะมาทำอะไรแบบนี้ นี่มาลากให้เดินตามตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ชื่อก็ยังไม่รู้ เพราะไม่ได้สนใจมองป้ายชื่ออีกฝ่ายเลย พูดถึงเรื่องชื่อ อยู่ๆอีกฝ่ายก็เรียกชื่อเราหลังจากมองป้ายชื่อ หรือว่าจะเข้าใจผิดจริงๆ แต่มันก็ไไม่สมเหตุสมผลอยู่ดีสำหรับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“มินฮยอน นายอยากกินอะไรเป็นมื้อเย็นหรอ”
“หรืออยากแวะซื้อของเล่นก่อนกลับบ้าน”
ร่างสูงยังคงพูดประโยคแปลกประหลาดซ้ำไปมา เหมือนจะถามแต่เมื่อไม่ตอบอีกฝ่ายก็ยังพูดไม่หยุด เขาพูดซ้ำไปมาแล้วยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า เหมือนจะเดินมาไกลแต่ก็ยังไม่พ้นรั้วโรงเรียนอยู่ดี มันอาจจะเป็นเพราะช่วงปิดเทอมคนในเขตโรงเรียนถึงไม่มีเลย อยากจะขอให้ใครช่วยเหลือ แต่มันก็ดูแปลกๆมั้ยเป็นนักเรียนทั้งคู่ แถมอีกฝ่ายมองภายนอกก็ยังเหมือนนักเรียนหน้าตาดีธรรมดาๆคนนึงอีก
“วันนี้อยากให้ฉันอาบน้ำให้มั้ย”
“ไอ้โรคจิต ! ปล่อย”
ให้ตายเถอะ ฮวางมินฮยอน ยังไม่ทันเรียนก็เกิดเรื่องซะแล้ว
- To be continue -
อยากให้อัพต่อก็เมนชั่นมาวิจารณ์ฟิคได้เลยนะ เราอยากได้รับความเห็นทุกคน หรือไปทวีตในแท็ก #มฮบMEOWXX ก็ได้
พล็อตน่ารัก💕 สนุกกกก แต่งต่อนะคะ รอตอนต่อไปคะ
ตอบลบฮือออ สงสารบิน T^T ค่อยๆคุยกันนะ ทั้งสองคน~
ตอบลบพล็อตเรื่องน่าอ่านมากๆค่ะ อ่านแล้วไม่เบื่อเพลินมากเลย สงสารฮยอนบินเหมือนกันนะ เราก็เลี้ยงแมวเข้าใจฟีลดีเลย แต่แบบอะไรคือการลากมินฮยอนไปอ่ะ มันใช่หรอ55555555555 จะรอตอนต่อไปนะคะ
ตอบลบชอบพล็อตมากเลยค่ะ อ่านแล้วน่าติดตามมากๆ เราชอบบ ❤️
ตอบลบ0gnosexduc-gi Mark Hogan Download
ตอบลบpliftiltizets