FIC101 : MINHYUNBIN : MEOW XX NO.2
BY @FOREVERSWEET007
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“ไอ้บิน มึงจะไปบังคับขู่เข็นเขาไม่ได้นะเว้ยเขาไม่ใช่แมวของมึง” ฮยอนอูพูดอย่างจริงจังเมื่อรู้ว่าฮยอนบินไปก่อเรื่องไว้กับเด็กใหม่ที่ยังไม่ทันจะเข้ามาเรียน เป็นเพราะความพยายามที่จะพาเด็กใหม่กลับบ้านด้วยล้มเหลว เขาจึงมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขาเพิ่งต่อยไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
“กูเศร้า กูเหงา กูอยากเอาแต่ใจ”
“มึงต้องมีสตินะเว้ย ถ้าเขาชอบมึงอ่ะว่าไปอย่าง”
“ชอบ ?” เมื่อจะเหมือนประโยคที่พูดออกมาลอยๆ แต่ฮยอนบินกลับคิดว่ามันช่างจริงจัง ชอบ? ถ้ามินฮยอนชอบเขา มินฮยอนก็จะไม่มีวันหนีเขา อยากอยู่กับเขา … อยู่ด้วยกันตลอดไป
“เออ ชอบเหมือนตอนที่มึงป๊อปอ่ะ ตอนที่มึงสติดี แต่งตัวดีๆ ทำกิจกรรมคูลๆ”
วันเปิดเทอม
ในที่สุดก็ถึงปีสุดท้ายของการเรียนในโรงเรียนนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนควอนฮยอนบินคนนี้คงจะดีใจ แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่เลย เขาอยากอยู่ต่อให้นานกว่านี้ อยากจะรู้จักคนๆนั้นให้มากกว่านี้
“กรี๊ด แก พี่ฮยอนบินทำไมเปิดเทอมมานี้เขาโคตรหล่อเลย” แม้จะเดินผ่านผู้หญิงสักกี่คน เขาจะต้องเจอกับประโยคแนวนี้ตลอด แอบดีใจเล็กๆเพราะคิดว่าถ้าหากคนที่เขาคอยคิดถึงอยู่ทุกวันคิดแบบผู้หญิงพวกนี้บ้าง อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้ามินฮยอนเจอเขาในลุคนี้ เขาจะเปิดใจให้บ้างรึเปล่านะ
“เออใช่ ออร่าพุ่งมาก เหมือนมีแสงออกมาจากตัว” การแต่งตัวมาดคุณชาย เสื้อสูทที่สีดำของโรงเรียนถูกรีดอย่างดี ร้องเท้าหนังราคาแพง ทั้งยังสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานนี้ แน่นอนว่าทั้งตัวของเขามีแต่เครื่องประดับราคาแพงที่ดูเข้ากับเขามาก ตามจริงก็ไม่ได้อยากจะเว่อร์ขนาดนี้ แต่เขาคิดว่าถ้าแต่งตัวดี ใครเห็นก็ต้องชอบทั้งนั้น อาจจะ รวมทั้งมินฮยอนด้วย
“บ้าจริง ฉันไม่น่าไปตามอ่อยคนอื่นเลย”
“ก็เทอมที่แล้วพี่แกดู ประหลาดๆปะ แบบแปลกๆ ” . .แต่พอมานึกดูแแล้ว มนุษย์เกือบทุกคนจะมองคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ถึงจะดีใจที่มีคนชอบแต่ว่า มันจะใช่จริงๆหรอ ของพวกนี้มันเป็นเปลือก คนที่จริงใจกับเขาจริงๆก็เห็นจะมีแค่ฮยอนอูเท่านั้น
“เขาลือกันว่าพี่แกอกหัก ผู้ชายอกหักก็แบบนี้แหละแก เออ แล้วเหมือนตอนนี้มีแต่พวกค่ายเพลงค่ายนายแบบมาติดต่อพี่แก พี่แกอาจจะได้เป็นดาราด้วยอ่ะ ฮอล "
ตลอดทางเดินเข้าโรงเรียน บทสนทนานับพันดังเข้ามาในหัวสมองของเขา ตอนนี้เขาได้กลับมาเป็นฮยอนบินคนเดิมที่ใครๆก็ต่างให้ความสนใจ
"ต้องมาโรงเรียนทุกวัน เพราะต้องดูแลมินฮยอน มินฮยอนรอเราอยู่ " ในหัวของร่างสูงตอนนี้มีแต่ความคิดที่เต็มไปด้วยมินฮยอน ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องอยู่ในห้องอีกต่อไป ในเมื่อแมวของเขาก็อยู่ที่ห้องเรียนเดียวกัน
.
.
.
มินฮยอนจะยังชอบมาอ้อนเขาให้เล่นด้วยอยู่รึเปล่านะ จะยังคอยอยู่ข้างๆตลอดเวลาเหมือนเดิมรึเปล่า
.
.
.
.
เมื่อฮยอนบินมาถึงห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็ต่างให้ความสนใจกับความเพอร์เฟ็คของเขา ไม่มีใครละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไปได้ แต่หากว่าฮยอนบินมองหาแต่เจ้าของใบหน้าที่น่ารักที่เจอในวันนั้น เขากวาดสายตาไปจนหยุดที่เป้าหมายที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดริมหน้าต่าง
ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นนั้น ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เเม้แต่ดอกไม้ก็ต้องอิจฉา ความสวยงามที่เขาเคยเจอมาทั้งหมดบนโลกใบนี้เทียบไม่ได้เลย
เมื่อทักทายเพื่อนในห้องเสร็จแล้ว ฮยอนบินก็รุดเดินไปหลังห้องในตำแหน่งที่มินฮยอนนั่งอยู่ เมื่อเห็นที่นั่งข้างๆนั้นว่าง เขาจึงถือวิสาสะนั่ง ก่อนที่จะสะกิดเรียกคนที่กำลังเหม่อให้หันมาสนใจ
“มินฮยอน”
นี่มัน. . . .ไอ้โรคจิตตอนนั้นนี่
“มินฮยอน เราขอนั่งตรงนี้นะ”
“อืม”
“จะขอทำไม ในเมื่อนั่งไปแล้ว”
มินฮยอนคิดในใจพร้อมหยิบหูฟังในกระเป๋าเป้มาใส่เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจคนที่อยู่ข้างๆ แม้เขาจะทำเป็นไม่สนใจสิ่งรอบข้างก็ตามแต่เขาก็เหลือบเห็นสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่มองมายังบริเวณที่เขานั่งอยู่ ตอนแรกเขาก็รู้สึกประหลาดใจที่คนในห้องมองมาเพราะเขาไม่ฝช่คนที่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอมองไปข้างๆก็รู้เหตุผลที่คนทั้งห้องมองมาทันที
.
.
.
พวกเซเลป . . รำคาญที่สุด
.
.
.
.
MINHYUN PART
กริ๊งงงงง
เมื่อเสียงกริ่งพักกลางวันของโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนในห้องต่างก็ลุกออกจากห้องทันที ยกเว้นผมกับคนโรคจิตที่นั่งข้างๆ เหตุผลที่ผมยังไม่ลุกไปไหนก็เพราะรอให้คนข้างๆลุกออกไปก่อนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ลุกออกไปอย่างที่ผมคิดไว้ ทั้งๆที่เพื่อนร่วมห้องต่างก็พากันชวนให้เขาไปกินข้าวด้วยแต่ก็ปฏิเสธไปซะทุกคน ตอนแรกผมก็คิดว่าเขาอาจจะขยัน อ่านหนังสือทบทวนหรือทำการบ้านก่อนไปกินข้าว แต่เปล่าเลย เขานั่งนิ่งๆไม่ทำอะไรแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่หยิบมันขึ้นมาเล่น
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินออกมานอกห้อง แต่ทันใดนั้นเอง ฮยอนบินก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามมา ตอนแรกผมคิดว่าผมอาจจะคิดไปเอง แต่มันไม่ใช่ ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหน เขาก็เดินตามมาตลอดจนผมเริ่มที่จะรำคาญ
"ตามมาทำไม" ผมหันไปพร้อมถามคนที่เดินตามมาอย่างหาเรื่อง
"ไม่ได้ตาม" เมื่อเขาตอบแบบนั้น ผมจึงคิดว่าบางผมอาจจะคิดไปเอง ผมจึงทำเป็นไม่สนใจ แล้วรีบเดินออกมา แต่เขาก็ยังคงเดินตามผมอยู่ จนจากความรู้สึกรำคาญกลายเป็นหงุดหงิด
"ก็บอกว่าอย่าตามมาไง ! " เขาหยุดเดินตามมาหลังจากที่ผมตะคอก เขาดูหน้าเสียไม่น้อยเมื่อถูกตะคอกใส่ วูบนึงที่ผมรู้สึกว่าผมอาจจะตะคอกแรงไป แต่ตามจริงมันก็สมควรแล้วในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจจริงๆว่าคนๆนี้ต้องการอะไร ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาจับแขนเขาแล้วลากให้เดินตาม คราวนี้ยังมานั่งข้างๆแถมเดินตามอีก แต่ผมก็ทิ้งความสงสัยเอาไว้ตรงนั้น แล้วรีบเดินหนีเซเลปโรงเรียนโรคจิตออกมา
ผมเดินขึ้นมาบนดาดฟ้า ไม่ได้ออกไปกินข้าวอย่างนักเรียนคนอื่น เหตุผลก็คือผมไม่ชอบที่ๆคนเยอะ ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยง ถึงจะหิวแต่ถ้าต้องไปเจอคนเยอะแบบนั้นก็ไม่เอาด้วยหรอก ผมคิดว่าคนเยอะเรื่องก็เยอะ อยู่คนเดียวนั่นแหละดีที่สุด อีกอย่างอุตส่าห์ย้ายโรงเรียนมาทั้งทีก็ไม่อยากให้มีปัญหาเหมือนโรงเรียนเก่า
เมื่อเวลาพักกลางวันใกล้หมดลงผมจึงเดินกลับไปที่ห้องเรียน แต่ภาพที่ผมเห็นทันทีที่เดินเข้าไปทำให้รู้สึกไม่ชอบเอามากๆ ฮยอนบินนั่งอยู่ในที่ข้างๆผม มันก็คือที่เดิมแต่มีผู้หญิงทั้งในทั้งและต่างห้องรายล้อม สีหน้ายิ้มแย้มของฮยอนบินทำให้ผมหมันใส้อย่างบอกไม่ถูก ผู้หญิงพวกนั้นก็เหมือนกัน หัวเราะพูดคุยกันเสียงดังไม่เกรงใจคนอื่นซะบ้าง
ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่ชอบ แต่ก็เดินเข้าไปเพราะใกล้หมดเวลาพักแล้ว เมื่อผมเดินเข้าไปนั่งประจำที่ เสียงในวงน้ันก็ดูจะเงียบลงอย่างชัดเจน แต่สักพักก็กลับมาคุยกันต่อเหมือนเดิม เสียงคุยของคนพวกนี้เริ่มทำให้ผมรำคาญ
ทำไมต้องมาซวยได้นั่งข้างคนๆนี้ด้วยเนี่ย
หลังจากที่หมดเวลาพัก คนในวงก็แยกย้ายกลับไปที่นั่งตัวเอง บริเวณที่ผมอยู่จึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ผมเตรียมหยิบหนังสือวิชาต่อไปก่อนที่อาจารย์จะเข้า แต่ก็ต้องชะยักเมื่อล้วงไปในลิ้นชักแล้วเจอกับ
แซนวิชปลาทูน่า กับ นมรสจืด อยู่ในนั้น
ใครเอามาไว้ในนี้
ผมฉุกคิดอยู่วูบหนึ่งแต่ความสงสัยเหล่านั้นก็หายไปหลังจากที่หันไปมองคนข้างๆ แน่นอนว่านอกจากคนๆนี้แล้ว ก็คงไม่มีใครที่จะมายุ่งวุ่นวายในชีวิตเขาอีกแล้ว
"นี่ของนายใช่มั้ย" ผมหันไปถามพร้อมกับชูของกลางขึ้นต่อหน้าคนที่ทำให้ผมรู้สึกรำคาญมากที่สุดเมื่อจะพึ่งเป็นวันแรกที่ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้
"จะแกล้งอะไรกัน" ผมวางของกินพวกนั้นไว้บนโต๊ะของร่างสูงอย่างแรงหลังจากที่เขาพยักหน้ายอมรับว่าเป็นคนเอามาไว้ในลิ้นชักของผม
"ป่าว" เขาปฏิเสธหน้านิ่ง
"แล้วนี่คืออะไร" ผมถามกลับอย่างหาเรื่อง คนดังในโรงเรียนถ้าจะทำแบบนี้มันก็มีเหตุผลเดียวนั่นแหละ คือต้องการกลั่นแกล้ง ในแซนวิชกับนมจะมีอะไรอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้
"ไม่ชอบหรอ อร่อยนะ" เขายิ้มพร้อมกับยื่นแซนวิชกับนมกลับมา
"เห็นยังไม่ได้กินข้าว เลยซื้อมาให้"
น้ำเสียงเขาที่ใช้พูดนั้นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาดื้อๆ ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือแกล้งพูด แต่เขาก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความห่วงใย ชีวิตที่ผ่านมาเขาเจอแต่เรื่องแย่ๆมาตลอดจนกลายเป็นคนไม่ไว้ใจใคร การแสดงออกที่หยาบกระด้างก็ทำไปเพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าตัวเองอ่อนแอ
ถึงจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ แต่ตอนนี้ก็ควรที่จะพูดดีๆกับผู้ชายคนนี้นะ มินฮยอน
" ข-ขอบใจ"
เลิกเรียน
"ตามมาทำไมอีก" ผมหันไปถามร่างสูงคนเดิมที่ตามติดผมมาตลอดทั้งวัน ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีกว่าตอนแรกมาก ตลอดทั้งวันที่นั่งข้างกัน ฮยอนบินดูไม่ใช่คนที่อันตรายอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไว้ใจได้เลยสักทีเดียว
"จะไปส่ง" เขาตอบพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัวผม
"ไม่ต้อง กลับเองได้"
"มันอันตราย"
"ก็บอกว่ากลับเองได้ไง !!" ผมตะคอกกลับเมื่อเขายังยืนกรานจะตามไปส่งที่บ้าน ผมหันหลังแล้วรีบเดินต่ออย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สังเกตุรถยนต์ที่วิ่งสวนเลนมาด้วยความเร็ว
หมับ !
"ก็บอกอยู่ว่ามันอันตราย" เสียงของเขาที่เปล่งออกมานั้นทำให้ผมรู้สึกประหม่า ฮยอนบินกระชากตัวผมเอาไว้ทำให้ไม่โดนรถชน แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้มีเพียงริมฝีปากของคนที่สูงกว่า พวกเราอยู่ใกล้กันจนผมสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย เมื่อความรู้สึกประหม่าเริ่มก่อตัวขึ้น ผมจึงรีบผละออกจากเขาทันที แล้วเดินนำเขาไปอย่างเร็ว
TBC
อยากให้อัพต่อก็เมนชั่นมาวิจารณ์ฟิคได้เลยนะ เราอยากได้รับความเห็นทุกคน หรือไปทวีตในแท็ก #มฮบMEOWXX ก็ได้
BY @FOREVERSWEET007
MEOW XX
HYUNBIN X MINHYUN
EP. 2
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“ไอ้บิน มึงจะไปบังคับขู่เข็นเขาไม่ได้นะเว้ยเขาไม่ใช่แมวของมึง” ฮยอนอูพูดอย่างจริงจังเมื่อรู้ว่าฮยอนบินไปก่อเรื่องไว้กับเด็กใหม่ที่ยังไม่ทันจะเข้ามาเรียน เป็นเพราะความพยายามที่จะพาเด็กใหม่กลับบ้านด้วยล้มเหลว เขาจึงมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขาเพิ่งต่อยไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
“กูเศร้า กูเหงา กูอยากเอาแต่ใจ”
“มึงต้องมีสตินะเว้ย ถ้าเขาชอบมึงอ่ะว่าไปอย่าง”
“ชอบ ?” เมื่อจะเหมือนประโยคที่พูดออกมาลอยๆ แต่ฮยอนบินกลับคิดว่ามันช่างจริงจัง ชอบ? ถ้ามินฮยอนชอบเขา มินฮยอนก็จะไม่มีวันหนีเขา อยากอยู่กับเขา … อยู่ด้วยกันตลอดไป
“เออ ชอบเหมือนตอนที่มึงป๊อปอ่ะ ตอนที่มึงสติดี แต่งตัวดีๆ ทำกิจกรรมคูลๆ”
วันเปิดเทอม
ในที่สุดก็ถึงปีสุดท้ายของการเรียนในโรงเรียนนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนควอนฮยอนบินคนนี้คงจะดีใจ แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่เลย เขาอยากอยู่ต่อให้นานกว่านี้ อยากจะรู้จักคนๆนั้นให้มากกว่านี้
“กรี๊ด แก พี่ฮยอนบินทำไมเปิดเทอมมานี้เขาโคตรหล่อเลย” แม้จะเดินผ่านผู้หญิงสักกี่คน เขาจะต้องเจอกับประโยคแนวนี้ตลอด แอบดีใจเล็กๆเพราะคิดว่าถ้าหากคนที่เขาคอยคิดถึงอยู่ทุกวันคิดแบบผู้หญิงพวกนี้บ้าง อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้ามินฮยอนเจอเขาในลุคนี้ เขาจะเปิดใจให้บ้างรึเปล่านะ
“เออใช่ ออร่าพุ่งมาก เหมือนมีแสงออกมาจากตัว” การแต่งตัวมาดคุณชาย เสื้อสูทที่สีดำของโรงเรียนถูกรีดอย่างดี ร้องเท้าหนังราคาแพง ทั้งยังสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานนี้ แน่นอนว่าทั้งตัวของเขามีแต่เครื่องประดับราคาแพงที่ดูเข้ากับเขามาก ตามจริงก็ไม่ได้อยากจะเว่อร์ขนาดนี้ แต่เขาคิดว่าถ้าแต่งตัวดี ใครเห็นก็ต้องชอบทั้งนั้น อาจจะ รวมทั้งมินฮยอนด้วย
“บ้าจริง ฉันไม่น่าไปตามอ่อยคนอื่นเลย”
“ก็เทอมที่แล้วพี่แกดู ประหลาดๆปะ แบบแปลกๆ ” . .แต่พอมานึกดูแแล้ว มนุษย์เกือบทุกคนจะมองคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ถึงจะดีใจที่มีคนชอบแต่ว่า มันจะใช่จริงๆหรอ ของพวกนี้มันเป็นเปลือก คนที่จริงใจกับเขาจริงๆก็เห็นจะมีแค่ฮยอนอูเท่านั้น
“เขาลือกันว่าพี่แกอกหัก ผู้ชายอกหักก็แบบนี้แหละแก เออ แล้วเหมือนตอนนี้มีแต่พวกค่ายเพลงค่ายนายแบบมาติดต่อพี่แก พี่แกอาจจะได้เป็นดาราด้วยอ่ะ ฮอล "
ตลอดทางเดินเข้าโรงเรียน บทสนทนานับพันดังเข้ามาในหัวสมองของเขา ตอนนี้เขาได้กลับมาเป็นฮยอนบินคนเดิมที่ใครๆก็ต่างให้ความสนใจ
"ต้องมาโรงเรียนทุกวัน เพราะต้องดูแลมินฮยอน มินฮยอนรอเราอยู่ " ในหัวของร่างสูงตอนนี้มีแต่ความคิดที่เต็มไปด้วยมินฮยอน ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องอยู่ในห้องอีกต่อไป ในเมื่อแมวของเขาก็อยู่ที่ห้องเรียนเดียวกัน
.
.
.
มินฮยอนจะยังชอบมาอ้อนเขาให้เล่นด้วยอยู่รึเปล่านะ จะยังคอยอยู่ข้างๆตลอดเวลาเหมือนเดิมรึเปล่า
.
.
.
.
เมื่อฮยอนบินมาถึงห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็ต่างให้ความสนใจกับความเพอร์เฟ็คของเขา ไม่มีใครละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไปได้ แต่หากว่าฮยอนบินมองหาแต่เจ้าของใบหน้าที่น่ารักที่เจอในวันนั้น เขากวาดสายตาไปจนหยุดที่เป้าหมายที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดริมหน้าต่าง
ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นนั้น ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เเม้แต่ดอกไม้ก็ต้องอิจฉา ความสวยงามที่เขาเคยเจอมาทั้งหมดบนโลกใบนี้เทียบไม่ได้เลย
เมื่อทักทายเพื่อนในห้องเสร็จแล้ว ฮยอนบินก็รุดเดินไปหลังห้องในตำแหน่งที่มินฮยอนนั่งอยู่ เมื่อเห็นที่นั่งข้างๆนั้นว่าง เขาจึงถือวิสาสะนั่ง ก่อนที่จะสะกิดเรียกคนที่กำลังเหม่อให้หันมาสนใจ
“มินฮยอน”
นี่มัน. . . .ไอ้โรคจิตตอนนั้นนี่
“มินฮยอน เราขอนั่งตรงนี้นะ”
“อืม”
“จะขอทำไม ในเมื่อนั่งไปแล้ว”
มินฮยอนคิดในใจพร้อมหยิบหูฟังในกระเป๋าเป้มาใส่เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจคนที่อยู่ข้างๆ แม้เขาจะทำเป็นไม่สนใจสิ่งรอบข้างก็ตามแต่เขาก็เหลือบเห็นสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่มองมายังบริเวณที่เขานั่งอยู่ ตอนแรกเขาก็รู้สึกประหลาดใจที่คนในห้องมองมาเพราะเขาไม่ฝช่คนที่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอมองไปข้างๆก็รู้เหตุผลที่คนทั้งห้องมองมาทันที
.
.
.
พวกเซเลป . . รำคาญที่สุด
.
.
.
.
MINHYUN PART
กริ๊งงงงง
เมื่อเสียงกริ่งพักกลางวันของโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนในห้องต่างก็ลุกออกจากห้องทันที ยกเว้นผมกับคนโรคจิตที่นั่งข้างๆ เหตุผลที่ผมยังไม่ลุกไปไหนก็เพราะรอให้คนข้างๆลุกออกไปก่อนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ลุกออกไปอย่างที่ผมคิดไว้ ทั้งๆที่เพื่อนร่วมห้องต่างก็พากันชวนให้เขาไปกินข้าวด้วยแต่ก็ปฏิเสธไปซะทุกคน ตอนแรกผมก็คิดว่าเขาอาจจะขยัน อ่านหนังสือทบทวนหรือทำการบ้านก่อนไปกินข้าว แต่เปล่าเลย เขานั่งนิ่งๆไม่ทำอะไรแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่หยิบมันขึ้นมาเล่น
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินออกมานอกห้อง แต่ทันใดนั้นเอง ฮยอนบินก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามมา ตอนแรกผมคิดว่าผมอาจจะคิดไปเอง แต่มันไม่ใช่ ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหน เขาก็เดินตามมาตลอดจนผมเริ่มที่จะรำคาญ
"ตามมาทำไม" ผมหันไปพร้อมถามคนที่เดินตามมาอย่างหาเรื่อง
"ไม่ได้ตาม" เมื่อเขาตอบแบบนั้น ผมจึงคิดว่าบางผมอาจจะคิดไปเอง ผมจึงทำเป็นไม่สนใจ แล้วรีบเดินออกมา แต่เขาก็ยังคงเดินตามผมอยู่ จนจากความรู้สึกรำคาญกลายเป็นหงุดหงิด
"ก็บอกว่าอย่าตามมาไง ! " เขาหยุดเดินตามมาหลังจากที่ผมตะคอก เขาดูหน้าเสียไม่น้อยเมื่อถูกตะคอกใส่ วูบนึงที่ผมรู้สึกว่าผมอาจจะตะคอกแรงไป แต่ตามจริงมันก็สมควรแล้วในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจจริงๆว่าคนๆนี้ต้องการอะไร ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาจับแขนเขาแล้วลากให้เดินตาม คราวนี้ยังมานั่งข้างๆแถมเดินตามอีก แต่ผมก็ทิ้งความสงสัยเอาไว้ตรงนั้น แล้วรีบเดินหนีเซเลปโรงเรียนโรคจิตออกมา
ผมเดินขึ้นมาบนดาดฟ้า ไม่ได้ออกไปกินข้าวอย่างนักเรียนคนอื่น เหตุผลก็คือผมไม่ชอบที่ๆคนเยอะ ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยง ถึงจะหิวแต่ถ้าต้องไปเจอคนเยอะแบบนั้นก็ไม่เอาด้วยหรอก ผมคิดว่าคนเยอะเรื่องก็เยอะ อยู่คนเดียวนั่นแหละดีที่สุด อีกอย่างอุตส่าห์ย้ายโรงเรียนมาทั้งทีก็ไม่อยากให้มีปัญหาเหมือนโรงเรียนเก่า
เมื่อเวลาพักกลางวันใกล้หมดลงผมจึงเดินกลับไปที่ห้องเรียน แต่ภาพที่ผมเห็นทันทีที่เดินเข้าไปทำให้รู้สึกไม่ชอบเอามากๆ ฮยอนบินนั่งอยู่ในที่ข้างๆผม มันก็คือที่เดิมแต่มีผู้หญิงทั้งในทั้งและต่างห้องรายล้อม สีหน้ายิ้มแย้มของฮยอนบินทำให้ผมหมันใส้อย่างบอกไม่ถูก ผู้หญิงพวกนั้นก็เหมือนกัน หัวเราะพูดคุยกันเสียงดังไม่เกรงใจคนอื่นซะบ้าง
ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่ชอบ แต่ก็เดินเข้าไปเพราะใกล้หมดเวลาพักแล้ว เมื่อผมเดินเข้าไปนั่งประจำที่ เสียงในวงน้ันก็ดูจะเงียบลงอย่างชัดเจน แต่สักพักก็กลับมาคุยกันต่อเหมือนเดิม เสียงคุยของคนพวกนี้เริ่มทำให้ผมรำคาญ
ทำไมต้องมาซวยได้นั่งข้างคนๆนี้ด้วยเนี่ย
หลังจากที่หมดเวลาพัก คนในวงก็แยกย้ายกลับไปที่นั่งตัวเอง บริเวณที่ผมอยู่จึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ผมเตรียมหยิบหนังสือวิชาต่อไปก่อนที่อาจารย์จะเข้า แต่ก็ต้องชะยักเมื่อล้วงไปในลิ้นชักแล้วเจอกับ
แซนวิชปลาทูน่า กับ นมรสจืด อยู่ในนั้น
ใครเอามาไว้ในนี้
ผมฉุกคิดอยู่วูบหนึ่งแต่ความสงสัยเหล่านั้นก็หายไปหลังจากที่หันไปมองคนข้างๆ แน่นอนว่านอกจากคนๆนี้แล้ว ก็คงไม่มีใครที่จะมายุ่งวุ่นวายในชีวิตเขาอีกแล้ว
"นี่ของนายใช่มั้ย" ผมหันไปถามพร้อมกับชูของกลางขึ้นต่อหน้าคนที่ทำให้ผมรู้สึกรำคาญมากที่สุดเมื่อจะพึ่งเป็นวันแรกที่ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้
"จะแกล้งอะไรกัน" ผมวางของกินพวกนั้นไว้บนโต๊ะของร่างสูงอย่างแรงหลังจากที่เขาพยักหน้ายอมรับว่าเป็นคนเอามาไว้ในลิ้นชักของผม
"ป่าว" เขาปฏิเสธหน้านิ่ง
"แล้วนี่คืออะไร" ผมถามกลับอย่างหาเรื่อง คนดังในโรงเรียนถ้าจะทำแบบนี้มันก็มีเหตุผลเดียวนั่นแหละ คือต้องการกลั่นแกล้ง ในแซนวิชกับนมจะมีอะไรอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้
"ไม่ชอบหรอ อร่อยนะ" เขายิ้มพร้อมกับยื่นแซนวิชกับนมกลับมา
"เห็นยังไม่ได้กินข้าว เลยซื้อมาให้"
น้ำเสียงเขาที่ใช้พูดนั้นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาดื้อๆ ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือแกล้งพูด แต่เขาก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความห่วงใย ชีวิตที่ผ่านมาเขาเจอแต่เรื่องแย่ๆมาตลอดจนกลายเป็นคนไม่ไว้ใจใคร การแสดงออกที่หยาบกระด้างก็ทำไปเพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าตัวเองอ่อนแอ
ถึงจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ แต่ตอนนี้ก็ควรที่จะพูดดีๆกับผู้ชายคนนี้นะ มินฮยอน
" ข-ขอบใจ"
เลิกเรียน
"ตามมาทำไมอีก" ผมหันไปถามร่างสูงคนเดิมที่ตามติดผมมาตลอดทั้งวัน ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีกว่าตอนแรกมาก ตลอดทั้งวันที่นั่งข้างกัน ฮยอนบินดูไม่ใช่คนที่อันตรายอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไว้ใจได้เลยสักทีเดียว
"จะไปส่ง" เขาตอบพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัวผม
"ไม่ต้อง กลับเองได้"
"มันอันตราย"
"ก็บอกว่ากลับเองได้ไง !!" ผมตะคอกกลับเมื่อเขายังยืนกรานจะตามไปส่งที่บ้าน ผมหันหลังแล้วรีบเดินต่ออย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สังเกตุรถยนต์ที่วิ่งสวนเลนมาด้วยความเร็ว
หมับ !
"ก็บอกอยู่ว่ามันอันตราย" เสียงของเขาที่เปล่งออกมานั้นทำให้ผมรู้สึกประหม่า ฮยอนบินกระชากตัวผมเอาไว้ทำให้ไม่โดนรถชน แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้มีเพียงริมฝีปากของคนที่สูงกว่า พวกเราอยู่ใกล้กันจนผมสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย เมื่อความรู้สึกประหม่าเริ่มก่อตัวขึ้น ผมจึงรีบผละออกจากเขาทันที แล้วเดินนำเขาไปอย่างเร็ว
TBC
อยากให้อัพต่อก็เมนชั่นมาวิจารณ์ฟิคได้เลยนะ เราอยากได้รับความเห็นทุกคน หรือไปทวีตในแท็ก #มฮบMEOWXX ก็ได้

ฮือออออ ชอบอ่ะ ดีมากเลยย รอตอนต่ไปนะคะ ><
ตอบลบ*ตอนต่อไป
ลบได้เลยย
ลบงื้ออออ น่ารักก
ตอบลบฮยอนบินต้องตั้งสตินะลูก มินฮยอนไม่ใช่แมววว(ถึงจะน่ารักเหมือนแมวก็เถอะ)
ตอบลบตอนนี้ก็น่ารักอีกแล้ว ชอบคุณควอนซื่อๆไทป์แฟนหนุ่มจังเลยค่ะ
เราชอบมากอ่ะ
ตอบลบไม่อัพต่อเราคงลงแดงตาย
งื้อ ชอบๆๆ เนื้อเรื่องดีมากกกเลย อยากให้มีต่อเรื่อยๆ
ตอบลบติดตามนะคะไรท์ ภาษาสวยมาก เนื้อเรื่องก็น่าสนใจสุดๆ คาร์ที่ไรท์คิดออกมาตรงใจเรามากเลย ชอบมากค่ะ 😭😭😭
ตอบลบ